อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน
เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า
เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20
โดยเป็นผู้ค้นพบและนำเสนอ “ทฤษฎีสัมพัทธภาพ”
และได้มีส่วนร่วมในด้านการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทย โดยอัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2464
จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก “การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี”
ปี พ.ศ. 2542 นิตยสารไทมส์
ยกย่องให้เขาเป็น “บุรุษแห่งศตวรรษ” ผู้เขียนชีวประวัติของเขาเอ่ยถึงเขาว่า
“สำหรับความหมายในทางวิทยาศาสตร์ และต่อมาเป็นความหมายต่อสาธารณะ ไอน์สไตน์
มีความหมายเดียวกันกับ อัจฉริยะ” ซึ่งทุกวันนี้
ชื่อของเขาได้กลายเป็นแบบอย่างที่แสดงถึงความฉลาดหรืออัจฉริยะ
ประวัติของ อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) แต่ถ้าอ่านตามสำเนียงภาษาเยอรมันจะอ่านได้ว่า
อัลแบร์ท ไอน์ชไตน์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2422 ที่เมืองอูล์ม
ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก สมัยจักรวรรดิเยอรมัน ครอบครัวของเขาเป็นชาวยิว
(แต่ไม่เคร่งครัดนัก) อัลเบิร์ตเข้าเรียนในโรงเรียนประถมคาธอลิก
และเข้าเรียนไวโอลิน
แม้ว่าเขาชอบที่จะสร้างแบบจำลองและอุปกรณ์กลได้ในเวลาว่าง
เขาถือเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ช้า สาเหตุอาจเกิดจากการที่เขามีความพิการทางการอ่านหรือเขียน
(dyslexia) ความเขินอายซึ่งพบได้ทั่วไป
หรือการที่เขามีโครงสร้างสมองที่ไม่ปกติและหาได้ยากมาก
(จากการชันสูตรสมองของเขาหลังจากที่ไอน์สไตน์เสียชีวิต)
ซึ่งเขายกความดีความชอบในการพัฒนาทฤษฎีของเขาว่าเป็นผลมาจากความเชื่องช้าของเขาเอง
โดยกล่าวว่าเขามีเวลาครุ่นคิดถึงอวกาศและเวลามากกว่าเด็กคนอื่น ๆ
เขาจึงสามารถสามารถพัฒนาทฤษฎีเหล่านี้ได้
โดยการที่เขาสามารถรับความรู้เชิงปัญญาได้มากกว่าและนานกว่าคนอื่น ๆ
ไอน์สไตน์เริ่มเรียนคณิตศาสตร์เมื่อประมาณอายุ
12 ปี ต่อมาใน พ.ศ. 2437
เนื่องมาจากความล้มเหลวในธุรกิจเคมีไฟฟ้าของพ่อของเขา
ทำให้ครอบครัวไอน์สไตน์ย้ายจากเมืองมิวนิค ไปยังเมืองพาเวีย (ใกล้กับเมืองมิลาน)
ประเทศอิตาลี ในปีเดียวกัน เขาได้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมา (คือ
“การศึกษาสถานะของอีเธอร์ในสนามแม่เหล็ก”)
โดยที่ไอน์สไตน์ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักในมิวนิคอยู่จนเรียนจบจากโรงเรียน
โดยเรียนเสร็จไปแค่ภาคเรียนเดียวก่อนจะลาออกจากโรงเรียนมัธยมศึกษา กลางฤดูใบไม้ผลิ
ในปี พ.ศ. 2438
แล้วจึงตามครอบครัวของเขาไปอาศัยอยู่ในเมืองพาเวีย
เขาลาออกโดยไม่บอกพ่อแม่ของเขา และโดยไม่ผ่านการเรียนหนึ่งปีครึ่งรวมถึงการสอบไล่
ไอน์สไตน์เกลี้ยกล่อมโรงเรียนให้ปล่อยตัวเขาออกมา
โดยกล่าวว่าจะไปศึกษาเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัดตามคำเชิญจากเพื่อนผู้เป็นแพทย์ของเขาเอง
โรงเรียนยินยอมให้เขาลาออก
แต่นี่หมายถึงเขาจะไม่ได้รับใบรับรองการศึกษาชั้นเรียนมัธยม
แม้ว่าเขาจะมีความสามารถชั้นเลิศในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
แต่การที่เขาไร้ความรู้ใด ๆ ทางด้านศิลปศาสตร์
ทำให้เขาไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิสในเมืองซูริค
ทำให้ครอบครัวเขาต้องส่งเขากลับไปเรียนมัธยมศึกษาให้จบที่อารอในสวิตเซอร์แลนด์
เขาสำเร็จการศึกษาและได้รับใบอนุปริญญาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2439 และสอบเข้า ETH ได้ในเดือนตุลาคม แล้วจึงย้ายมาอาศัยอยู่ในเมืองซูริค ในปีเดียวกัน
เขากลับมาที่บ้านเกิดของเขาเพื่อเพิกถอนภาวะการเป็นพลเมืองของเขาในเวอร์เทมบูรก์
ทำให้เขากลายเป็นผู้ไร้สัญชาติ
ใน พ.ศ. 2443
เขาได้รับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิส
และได้รับสิทธิ์พลเมืองสวิสในปี พ.ศ. 2444
หลังจากจบการศึกษา
ไอน์สไตน์ไม่สามารถหางานสอนหนังสือได้ หลังจากเพียรพยายามอยู่เกือบสองปี
พ่อของอดีตเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งก็ช่วยให้เขาได้งานทำที่สำนักงานสิทธิบัตร
ในกรุงเบิร์น ในตำแหน่งผู้ช่วยตรวจสอบเอกสาร
หน้าที่ของเขาคือการตรวจประเมินใบสมัครของสิทธิบัตรในหมวดหมู่อุปกรณ์แม่
เหล็กไฟฟ้า ในปี พ.ศ. 2446
ไอน์สไตน์ก็ได้บรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ
หลังจากถูกมองข้ามมานานจนกระทั่งกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรกล
ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ด้วยโรคหัวใจวาย ที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา
ผลงานของ อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
จริงๆ
แล้วผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิสิกส์มีมากมาย
โดยไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น
และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น
แต่ทางมานาคอมพิวเตอร์อยากจะขอนำเสนอแค่ส่วนหนึ่งที่คนทั่วไปรู้จักกันดีครับ
- ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นไปตาม equivalence principle
- วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาล
- ขยายแนวความคิดยุคหลังนิวตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวพุธได้อย่างลึกซึ้ง
- ทำนายการหักเหของแสงอันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง
- อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว
- ริเริ่มทฤษฎีการแกว่งตัวอย่างกระจายซึ่งอธิบายการเคลื่อนที่ของบราวน์ของโมเลกุล
- ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนาจากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง
- ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมในของแข็ง
- Zero-point energy
- อธิบายรูปแบบย่อยของสมการของชเรอดิงเงอร์
- EPR paradox
- ริเริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น